Review Product in Thailand

2. วิตามินรวมเซนทรัม Centrum



        เซนทรัม วิตามินรวม เป็นแบรนด์ที่มีความหลากหลายของวิตามินและเกลือแร่ถึง 22 ชนิด พร้อมทั้งให้วิตามินเอในรูปแบบเบต้า-แคโรทีนที่มีส่วนช่วยคงสภาพปกติของการมองเห็น อีกทั้งยังมีลูทีนและไลโคปีน แต่ไม่แนะนำให้เด็กและสตรีมีครรภ์รับประทาน

• ชนิดของสารอาหาร : วิตามินและเกลือแร่รวม 22 ชนิด พร้อมด้วยเบต้า-แคโรทีน, ลูทีน และไลโคปีน
• วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร
• ขนาดบรรจุ : 30 เม็ด
• ราคาปกติ : 299 บาท

เช็คราคาที่ Shopee : https://shope.ee/A9tYhonKQm
เช็คราคาที่ Lazada : https://s.lazada.co.th/s.mz46d

วิตามินรวม ยี่ห้อไหนดี 2024

1. วิตามินรวม Blackmores Koala Multivitamin+Mineral



        วิตามินรวมจาก Blackmores กระปุกนี้เป็นวิตามินแบบเม็ดเคี้ยวเหมาะสำหรับเด็ก มีกลิ่นหอมของสตรอว์เบอร์รีและวานิลลา ปราศจากน้ำตาล เพราะใช้สารสกัดจากใบหญ้าหวานและไซลิทอล ใน 1 เม็ด ประกอบด้วยวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินบี วิตามินเอ และไอโอดีน ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งมีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง และการเจริญเติบโตของร่างกาย

• ชนิดของสารอาหาร : วิตามิน 13 ชนิด และแร่ธาตุ 5 ชนิด
• วิธีรับประทาน : เคี้ยวก่อนกลืนหรืออม วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร
• ขนาดบรรจุ : 30 เม็ด
• ราคาปกติ : 369 บาท

เช็คราคาที่ Shopee : https://shope.ee/9A11VRVGfw
เช็คราคาที่ Lazada : https://s.lazada.co.th/s.mz4cn

วิตามินรวมยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เติมส่วนที่ขาดหาย เลือกแบบไหนเหมาะกับตัวเอง



การใช้ชีวิตที่เร่งรีบออกจากบ้านแต่เช้าและกลับบ้านตอนมืดค่ำ รวมทั้งระหว่างวันอาจต้องออกไปพบลูกค้าหรือออกไปไซต์งาน ล้วนทำให้เรากินอาหารไม่ครบหมู่ นานวันเข้าก็เริ่มเห็นสัญญาณเตือนของสุขภาพที่เกิดจากการขาดสารอาหาร ดังนั้น การรับประทานวิตามิน จึงเป็นทางเลือกที่หลายคนสนใจ

อย่างไรก็ตาม การรับประทานวิตามินชนิดเดียวใน 1 เม็ด อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ครั้นจะรับประทานหลายเม็ดอาจไม่สะดวก เดี๋ยวนี้จึงมี "วิตามินรวม" ซึ่งมีวิตามินหลายชนิดในเม็ดเดียวเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเสริมวิตามินส่วนที่ขาด ถ้าอยากทราบว่า วิตามินรวม ยี่ห้อไหนดี แบบไหนเหมาะกับคุณ และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง ลองมาเช็กกัน

วิตามินรวม คืออะไร



วิตามินรวม หรือมัลติวิตามิน (Multivitamin) คือ อาหารเสริมประเภทหนึ่งมาในรูปแบบเม็ดหรือผงสำหรับชง โดยใน 1 เม็ด หรือ 1 ซอง มีส่วนประกอบของวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี รวมทั้งอาจมีแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม สังกะสี สารอาหาร หรือสารสกัดต่าง ๆ

ประโยชน์ของวิตามินรวม ช่วยเรื่องอะไร

• ช่วยเติมวิตามินให้ร่างกายมีเพียงพอต่อการนำไปใช้ในระบบต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• เสริมสร้างพลังงานให้ร่างกาย
• ช่วยให้ร่างกายสดชื่น เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
• ช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน สร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว
• ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ซึ่งมีผลต่อความจำ
• มีกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ซึ่งช่วยสร้างโปรตีน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยให้เส้นเลือดยืด-หดเป็นปกติ
• ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น คลายความกังวล ร่างกายไม่อ่อนเพลีย

วิตามินรวม เหมาะกับใคร



    ผู้ที่รับประทานอาหารครบหมู่ นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ ไม่มีปัญหาสุขภาพ ไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินรวม วิตามินรวมจึงเหมาะกับคนบางกลุ่มเท่านั้น ดังนี้

• คนที่มีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร
• คนที่ผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร
• คนที่เป็นโรคทางเดินอาหารอักเสบ
• ผู้สูงอายุที่ขาดวิตามินและเกลือแร่
• ผู้ที่เบื่ออาหาร รับประทานน้อย
• ผู้ที่นอนดึก พักผ่อนน้อยหรืออ่อนเพลียง่าย
• ผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติหรือกินเจ
• ผู้ที่รับประทานอาหารซ้ำ ๆ หรือกินอาหารสำเร็จรูปบ่อย ๆ
• หญิงที่เตรียมตัวตั้งครรภ์

วิธีเลือกซื้อวิตามินรวม

• เลือกซื้อวิตามินรวมที่มีส่วนผสมตามต้องการ เช่น

      - ถ้าต้องการเน้นเรื่องการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ควรเลือกวิตามินที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินดี ซิงก์
      - ถ้าต้องการดูแลระบบประสาทและสมอง ควรเลือกวิตามินที่มีส่วนผสมของวิตามินบีรวม โคลีน เป็นต้น

• เลือกรูปแบบที่สะดวกในการรับประทาน เช่น วัยเด็กอาจไม่ชอบกลืนยา สามารถเลือกแบบเม็ดเคี้ยวได้ หรือวัยผู้ใหญ่ถ้าไม่สะดวกกลืนยาอาจเลือกแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำหรือแบบชง
• เลือกวิตามินรวมที่ตรงกับวัยของตัวเอง โดยบางแบรนด์แยกเป็นสูตรสำหรับเด็ก ผู้หญิง ผู้ชาย ผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีสารอาหารที่ตรงกับความต้องการในแต่ละวัย
• ตรวจสอบปริมาณของวิตามินหรือแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่วนสารอาหารที่เป็นตัวเสริมไม่จำเป็นต้องมีปริมาณมากเกินไป เนื่องจากอาจไม่ตรงกับความต้องการของร่างกาย
• ตรวจสอบส่วนผสมอย่างละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้
• เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีการระบุบริษัทที่ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ รวมทั้งมีการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.
• ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการเลือกซื้อทุกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร

วิตามินรวม กินตอนไหน



         วิตามินรวมจะถูกดูดซึมได้ดีพร้อมกับมื้ออาหารหรือระหว่างมื้ออาหาร แต่ถ้าหากลืมรับประทานหลังอาหาร ควรรับประทานทันทีหลังมื้ออาหารไม่นาน เพื่อการดูดซึมที่ดีและลดอาการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร

วิตามินรวม กินทุกวันได้ไหม
         วิตามินรวมควรรับประทานในปริมาณตามที่ระบุในฉลากผลิตภัณฑ์ เพราะแต่ละยี่ห้อมีปริมาณวิตามินต่างกัน และมีข้อบ่งใช้ต่างกัน การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา

ข้อควรระวังเมื่อกินวิตามินรวม

• วิตามินรวมเป็นการรับประทานเพื่อชดเชยการขาดวิตามิน ไม่สามารถรักษาโรคหรือป้องกันโรคได้
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ โรคไต เบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อมารับประทาน
• เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ กำลังวางแผนตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร รวมทั้งผู้ที่แพ้ยา อาหาร หรือสารต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน
• ผู้ที่รับประทานยา สมุนไพร หรืออาหารเสริมอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน
• ไม่ควรรับประทานวิตามินเสริมเกินขนาดที่ฉลากผลิตภัณฑ์กำหนด เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ ท้องเสีย มีผื่นคัน เป็นต้น
• วิตามินรวมที่มีส่วนผสมของวิตามินบี ไม่ควรรับประทานกับนมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีแคลเซียม เนื่องจากจะไปขัดขวางการดูดซึมวิตามิน
• อ่านข้อควรระวังหรือข้อห้ามในฉลากให้ชัดเจนก่อนรับประทาน

           หากใครต้องการเสริมวิตามินรวมเพราะปกติเป็นคนที่รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ไม่ชอบกินผัก-ผลไม้ เบื่ออาหาร นอนดึก รู้สึกอ่อนเพลียง่าย ๆ ลองส่องดูยี่ห้อวิตามินรวมที่ตอบโจทย์ได้เลย อย่างไรก็ตาม การกินวิตามินเป็นเพียงตัวเสริมเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงด้วยเช่นกัน

1. Rose Hip Oil Extra Virgin Cold-pressed

น้ำมันโรสฮิปออย์ เอ็กตร้า เวอร์จิน สกัดเย็น จากชิลี ขนาด 30ml.



Rose Hip Oil Extra Virgin ( Fresh) 100%  สกัดเย็น จากประเทศชิลี ปราศจากเคมีกันเสีย

• น้ำมันโรสฮิปออย  มีคุณสมบัติในการซ่อมแซม และดูแลผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีสารพิษ
• ให้ความชุ่มชื้นสูง เหมาะสำหรับบำรุง และฟื้นฟูความสมดุลย์ของผิวที่แห้งกร้าน
• ผิวแพ้ง่าย ลดการอักเสบของผิว ฟื้นฟูผิวที่ถูกเผาใหม้ จากแสงแดด หรือรังสีรักษา
• มีคุณสมบัติในการลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวหนังที่แตกลาย และขรุขระ เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้รอยแผลเป็นนุ่ม และจางลง รักษารอยแดงจากสิว สีของน้ำมัน ออกสีชมพูแดง แสดงถึงความ Virgin และ สดใหม่
• #RoseHipOil ประกอบด้วย ไขมันไม่อิ่มตัวสูง ที่มีความสำคัญ และจำเป็นต่อร่างกาย คือโอเลอิก (15-20%), ไลโนเลอิก (44-50%) และ Linolenic (30-35%) ซึ่งมีส่วนสำคัญในการบำรุง รักษา และฟื้นฟู ให้ผิวแข็งแรง และมีสุขภาพดี
• การใช้ ทาผิวหน้า ผิวกายโดยตรง ใช้ผสมในน้ำมันนวด (Massage Oils) ครีมบำรุงผิวแทบทุกชนิด  ผสมน้ำมันนวดในสปา

จากผลงานวิจัยและผลการรักษามากมาย สารสําคัญใน Rosehip oil ให้ประสิทธิภาพต่างๆมากมายดังนี้

• ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ(Tissue)ผิวหนังที่ถูกทําลาย
• ลดผิวแตกลาย หน้าท้อง น่องลาย(Stretch Marks)
• ช่วยป้องกันริ้วรอยแตกลายในหญิงมีครรภ์และผิวบริเวณที่มีการขยายตัวจากนํ้าหนักตัวที่เพิ่มขึ้นหรือการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
• ลดเลือนรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกา (Wrinkle and Crows feet) และริ้วรอยแรกเริ่ม (Premature ageing and Ageing Skin)
• ทําให้ผิวหนังชุ่มชื้น ลดรอยแผลเป็น
• ปรับสีผิวจากรอยแผลเป็น รอยสิว อีสุกอีใส และแผลเป็นที่แข็ง(Keloid type of scar lump) ให้ยืดหยุ่น นุ่มและจางลงรวมทั้งแผลผ่าตัดและแผลจากอุบัติเหตุ (Surgical and accidental scar) อีกทั้งยังช่วยลดรอยแผลเป็นจากผิวไหม้
• ช่วยลดจุดด่างดําและปรับให้ผิวเรียนเนียนกระจ่างขาวใสขึ้น (Uneven Skin tone)
• ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทําให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
• ช่วยลดและป้องกันเส้นเลือดฝอยแตก โดยเฉพาะบริเวณที่มีผิวหนังเปราะบาง(Fragile capillaries)

ความแตกต่างระหว่าง Rosehip Oil Extra Virgin มีสีเหลืองส้มอมแดง มีกลิ่นธรรมชาติ กลิ่นอ่อนๆ และซึมเร็วไม่เหนอะหนะ
ขนาด 30 ml.บรรจุในขวดแก้ว dropper กรองแสง

ซื้อที่ Shopee : https://shope.ee/AKChDKjl1F
ซื้อที่ Lazada : https://s.lazada.co.th/s.msY3u

Rosehip Oil คืออะไร?
หนึ่งในส่วนผสมของสกินแคร์ที่เต็มไปด้วยสารพัดประโยชน์

สารสกัดจากธรรมชาติที่เต็มไปด้วยประโยชน์พร้อมแก่การบำรุงผิว



"Rosehip Oil" หรือน้ำมันโรสฮิปเป็นน้ำมันที่ได้มาจากการสกัดจากเมล็ดโรสฮิปมีต้นกำเนิดอยู่แถบประเทศชิลี ในน้ำมันโรสฮิปมีวิตามิน A และวิตามิน C สูง มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวหนังและเส้นใยคอลลาเจน อีกทั้งยังมีกรดไขมันอย่าง โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 ในปริมาณที่เหมาะสม ทำให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายแบรนด์เลือกนำสารสกัดนี้ไปเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ และมักใช้วิธีการสกัดเย็นให้น้ำมันโรสฮิปแยกตัวออกมาเพื่อใช้ในการบำรุงผิวนั่นเอง

คุณประโยชน์ของ Rosehip Oil

• เพิ่มความชุ่มชื้น

น้ำมันโรสฮิปเป็นน้ำมันที่มีเนื้อสัมผัสเบา สามารถซึมลงสู่ผิวเราได้เร็ว เพราะมีกรดไขมันที่มีโมเลกุลใหญ่จึงช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แถมยังมีวิตามิน E มาช่วยเสริมให้ผิวชุ่มชื้นยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นใครที่มีผิวแห้งหรือผิวมันที่เกิดจากผิวขาดน้ำ เพราะอยู่ในห้องแอร์นานๆ หรือดื่มน้ำน้อยมาก การทาน้ำมันโรสฮิปเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยกู้ผิวเราให้กลับคืนสู่สมดุลได้

• ลดริ้วรอยบนใบหน้า

เนื่องจากน้ำมันโรสฮิปมีส่วนประกอบของกรดไขมันและสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า และด้วยปริมาณวิตามิน C ที่มีมากในน้ำมันโรสฮิป จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวออกมา ซึ่งมีประสิทธิภาพอย่างมากในการบำรุงฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น

• ลดรอยจุดด่างดำจากสิว

น้ำมันโรสฮิปมีสารสำคัญชื่อ Quercetin ที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ได้ ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในการสร้างเม็ดเมลานินแต่พอเมื่อถูกยับยั้งแล้ว เม็ดสีก็จะไม่ถูกสร้างขึ้น ทำให้รอยดำที่เกิดจากสิวหรือแผลสามารถจางหายได้เร็วขึ้น

• ผลัดเซลล์ผิวเก่า

ด้วยวิตามิน A หรือเรตินอยด์ที่มีอยู่ในน้ำมันโรสฮิป จึงช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น หมดปัญหาอาการผิวหมองคล้ำไปได้เลย

• ลดปัญหาอาการผิวหนังอักเสบ

เพราะน้ำมันโรสฮิปมีส่วนผสมของ Polyphenols และ Anthocyanin ในปริมาณพอสมควรจึงช่วยลดอาการอักเสบของผิวที่เกิดจากอาการต่างๆ เช่น Rosacea, Psoriasis, Eczema เป็นต้น

10. Now Foods



กรดโฟลิคเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากของตระกูลวิตามิน B ที่จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ DNA และการซ่อมแซมทางพันธุกรรม ทำให้มีโฟเลตในปริมาณมากเพียงพอซึ่งจำเป็นสำหรับเซลล์ที่มีการแบ่งตัวเร็ว เช่น เซลล์เม็ดเลือดแดง กรดโฟลิคยังจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์เมไธโอนีนจากโฮโมซิสเทอีน และสามารถช่วยในการทำงานที่ดีต่อสุขภาพของทั้งระบบหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงระบบประสาท

ส่วนประกอบ : Folic Acid, Vitamin B12
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน : รับประทานวันละ 1 เม็ดพร้อมอาหาร

ประโยชน์

• บำรุงโลหิต ป้องกันโรคโลหิตจาง
• เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย
• ช่วยลดโคเลสเตอรอล
• ป้องกันการอุดตันไขมันในเส้นเลือด
• ทำให้ประจำเดือนมาปกติ

เช็คราคาที่ Shopee : https://shope.ee/5fQoRfpVMV
เช็คราคาที่ Lazada : https://s.lazada.co.th/s.mJrS6

9.Yanhee Himorin



Yanhee Himorin (ยันฮี ไฮโมริน) บำรุงโลหิต
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม

ส่วนประกอบ : Iron, Vitamin B1 B2 B6 B12, ผงดอกคำฝอย, สังกะสี, กรดโฟลิก
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน : ทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า

ประโยชน์

• บำรุงโลหิต ป้องกันโรคโลหิตจาง
• เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย
• ช่วยลดโคเลสเตอรอล
• ป้องกันการอุดตันไขมันในเส้นเลือด
• ทำให้ประจำเดือนมาปกติ

เช็คราคาที่ Shopee : https://shope.ee/7KZ2Pi4PGy
เช็คราคาที่ Lazada : https://s.lazada.co.th/s.mJJ6P

8.Nature's Bounty



ด้วยการผสมผสานนวัตกรรมล่าสุดในด้านวิทยาศาสตร์โภชนาการเข้ากับส่วนผสมที่ดีที่สุด Nature's Bounty ได้เลือกนำเสนอผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพและคุณค่าแก่ผู้คน เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์และสุขภาพร่างกาย ดูแลโดยนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต และผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพ มั่นใจได้ด้วยคุณภาพโรงงานที่ได้รับการตรวจสอบอย่างประสบความสำเร็จโดย United States Pharmacopeia and STR (Specialized Technology Resources) ซึ่งเป็นบริษัทประเมินคุณภาพผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอิสระชั้นนำ!

ส่วนประกอบ : Iron >> ธาตุเหล็ก (เช่น เฟอร์รัสซัลเฟต) / Gentle Iron >> ธาตุเหล็ก, กรดโฟลิค, วิตามินซี, วิตามินบี 12
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน : วันละ 1 แคปซูล (ระหว่างมื้ออาหาร)

ประโยชน์

• ช่วยในการบำรุงโลหิต ป้องกันโลหิตจาง
• ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
• รองรับการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง
• Gentle Iron เป็นสูตรอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองกระเพราะอาหาร

ข้อควรระวัง : ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี, สตรีมีครรภ์ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนทาน

เช็คราคาที่ Shopee : https://shope.ee/8KRZafEDve
เช็คราคาที่ Lazada : https://s.lazada.co.th/s.mJqjh

7.DHC



อาหารเสริมที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น และคงไม่มีใครไม่คุ้นหูคุ้นตากับ Dhc แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในวงการเครื่องสำอางของญี่ปุ่น เน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง แต่ราคาน่าคบทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากผู้ใช้ในญี่ปุ่นและหลายประเทศทั่วโลก ใครที่ต้องการเสริมธาตุเหล็กอย่างเต็มที่ และไม่รู้จะเลือกยาบำรุงเลือดยี่ห้อไหนดี Dhc ก็เป็นแบรนด์ที่น่าสนใจเลยทีเดียว

ส่วนประกอบ : ธาตุเหล็ก, กรดโฟลิค, วิตามินบี 12
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน : รับประทานวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหาร เช้า – เย็น

ประโยชน์

• เสริมการทำงานของเม็ดเลือดแดง
• มีวิตามินช่วยให้ร่างการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น
• ช่วยทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสดใส ชนิดที่ว่าดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• ช่วยในเรื่องการบำรุงสมองและระบบประสาท

ข้อควรระวัง : เด็กและสตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน

เช็คราคาที่ Shopee : https://shope.ee/4fYHDQru6M
เช็คราคาที่ Lazada : https://s.lazada.co.th/s.mJKAk

6.Swisse Ultiboost



ยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็ก Swisse Ultiboost ที่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์เสริมธาตุเหล็กให้สำหรับผู้ที่มีธาตุเหล็กในร่างกายต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเหนื่อยล้า คนทานมังสวิรัติ และคนตั้งครรภ์ทานได้ ซึ่งผู้ใช้จริงส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า มีส่วนช่วยรักษาระดับธาตุเหล็กได้ดี ผลข้างเคียงต่ำมาก และไม่มีอาการท้องผูกตามมา เป็นแบรนด์ดวงใจของหลาย ๆ คน ถ้ามีคนถามว่ายาบำรุงโลหิตจาง ยี่ห้อไหนดี รับประกันว่าต้องมีแบรนด์นี้ในลิสต์แน่นอน!

ส่วนประกอบ : ธาตุเหล็ก, สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina),  Iron Amino Acid Chelate, วิตามิน C, B6
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน : รับประทานวันละ 1 เม็ด ระหว่างหรือหลังอาหารทันที

ประโยชน์

• เหมาะสำหรับผู้ทานมังสวิรัติและในระหว่างตั้งครรภ์
• มีธาตุเหล็กที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง
• มีวิตามินซี เพื่อช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย
• มีแหล่งโปรตีนบำรุงกล้ามเนื้อและช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ข้อควรระวัง : ผู้ที่มีภาวะขาดธาตุเหล็กเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์

เช็คราคาที่ Shopee : https://shope.ee/3L2tcMqC4e
เช็คราคาที่ Lazada : https://s.lazada.co.th/s.mJKhH